หน่วยที่ 1: การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวม

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

จุดประสงค์การเรียนรู้

  • นักเรียนสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวมได้
  • นักเรียนมีจิตสำนึกและพฤติกรรมที่เคารพในสิทธิของส่วนรวม
  • นักเรียนมีทักษะในการคิดวิเคราะห์สถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน

ความหมายสำคัญ

ผลประโยชน์ส่วนตน

คือ สิ่งที่ให้ประโยชน์หรือความพึงพอใจต่อตนเอง เช่น การได้ของรางวัล การได้เล่นก่อนเพื่อน หรือการใช้ของหลวงไปทำประโยชน์ส่วนตัว

ผลประโยชน์ส่วนรวม

คือ สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่ม ต่อสังคม ต่อโรงเรียน เช่น การรักษาความสะอาดห้องเรียน การใช้ของส่วนรวมอย่างประหยัด และการไม่เอาเปรียบเพื่อน

ตัวอย่างสถานการณ์เปรียบเทียบ

สถานการณ์ผลประโยชน์ส่วนตนผลประโยชน์ส่วนรวม
ใช้กระดาษ A4 ของโรงเรียนทำการบ้านส่วนตัวtruefalse
รดน้ำต้นไม้ที่โรงเรียนโดยไม่สั่งfalsetrue
เล่นของเล่นระหว่างเรียนtruefalse
จัดโต๊ะเรียนให้เรียบร้อยก่อนกลับบ้านfalsetrue

pushpin 1f4ccความสำคัญของการแยกแยะ

  • การแยกแยะช่วยให้เรารู้ว่า “ควรทำอะไร” และ “ไม่ควรทำอะไร”
  • ป้องกันการเกิด ผลประโยชน์ทับซ้อน
  • ส่งเสริมความมีระเบียบวินัย และจริยธรรมในสังคม

กิจกรรมกลุ่ม: “สถานการณ์นี้…ใครได้ ใครเสีย?”

วัตถุประสงค์ของกิจกรรม

  • เพื่อให้นักเรียนวิเคราะห์สถานการณ์จริงหรือจำลองว่าเป็น “ผลประโยชน์ส่วนตน” หรือ “ผลประโยชน์ส่วนรวม”
  • เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงจริยธรรมและทักษะการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล

วิธีดำเนินกิจกรรม

  • แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4–5 คน
  • แจก “สถานการณ์จำลอง” ให้กลุ่มละ 1 สถานการณ์ (ครูสามารถสุ่มให้ หรือให้นักเรียนจับฉลาก)
  • ให้นักเรียนช่วยกันตอบคำถามต่อไปนี้:
    • สถานการณ์นี้เป็น ผลประโยชน์ส่วนตน / ส่วนรวม / ทับซ้อน หรือไม่? เพราะอะไร?
    • ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์นั้น จะตัดสินใจอย่างไร?
    • ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรถ้าทุกคนเลือกเหมือนกันกับในสถานการณ์นี้?
  • ให้นักเรียนจัดทำโปสเตอร์ หรือเขียนสรุปบนกระดาษ A4 / สไลด์ Google Slides / Jamboard
  • นำเสนอหน้าชั้นเรียน หรืออัดคลิปสั้น ๆ เพื่อส่งครู

ตัวอย่างสถานการณ์ (ครูใช้สุ่มแจกกลุ่มละ 1 ใบ)

สถานการณ์คำถามกระตุ้นคิด
นักเรียนคนหนึ่งแอบใช้กระดาษจากห้องพยาบาลไปวาดการ์ตูนสิ่งที่เขาทำเป็นผลประโยชน์แบบใด? มีใครเสียบ้าง?
มีเพื่อนคนหนึ่งเจอเงินหล่นหน้าห้อง แล้วเก็บไว้ใช้เองถ้าคุณเจอแบบนี้ คุณจะทำอย่างไร?
โรงเรียนให้ทุนนักเรียน แต่ลูกของครูได้รับโดยไม่สอบนี่เป็นการได้สิทธิโดยชอบธรรมหรือไม่?
เพื่อนในกลุ่มทำงานให้เสร็จคนเดียว แต่ให้ทุกคนส่งชื่อร่วมคุณคิดว่ายุติธรรมหรือไม่? ควรแก้ปัญหายังไง?

การทุจริตคืออะไร?

เราจะป้องกันการทุจริตได้อย่างไร

ปัญหาการทุจริตเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทยและทั่วโลก เพราะการทุจริตทำให้เกิดความเสียหายในหลายด้าน เช่น

  • เศรษฐกิจตกต่ำ
  • การลงทุนของต่างชาติหดหาย
  • การบริหารประเทศขาดความโปร่งใส
  • ส่งผลให้ประเทศไม่สามารถพัฒนาได้เต็มศักยภาพ

ในปัจจุบัน การทุจริตเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชน โดยมี ฝ่ายได้ประโยชน์ และ ฝ่ายให้ประโยชน์ ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันแบบผิดกฎหมายหรือผิดจริยธรรม


1. ผู้รับผลประโยชน์

คือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจ หน้าที่ในการดำเนินงานต่าง ๆ แล้วใช้ตำแหน่งหน้าที่นั้นรับผลประโยชน์ส่วนตน เช่น

  • เรียกรับสินบน
  • จัดซื้อจัดจ้างโดยไม่โปร่งใส
  • ใช้อำนาจกำหนดผลประโยชน์ให้คนบางกลุ่มโดยมิชอบ

2. ผู้ให้ผลประโยชน์

คือบุคคลหรือหน่วยงานที่ต้องการได้รับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเสนอผลตอบแทนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น

  • เงิน
  • ของขวัญ
  • การเลี้ยงดู หรือการให้สิทธิพิเศษ

คำว่า “ทุจริต” หมายถึงอะไร?

“การกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม โดยใช้ประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ของตน เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนหรือพวกพ้อง”

พฤติกรรมเหล่านี้มักเริ่มจากเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขก็จะขยายวงกว้างและฝังรากลึกในสังคมไทย


ตัวอย่างการทุจริตที่พบบ่อย

  • การลอกข้อสอบ
  • การยอมให้เพื่อนลอกการบ้าน
  • การใช้ทรัพย์สินของโรงเรียนไปใช้ส่วนตัว
  • การจัดซื้อของในโรงเรียนโดยไม่โปร่งใส
  • เจ้าหน้าที่เรียกรับเงินเพื่อเลื่อนตำแหน่งหรืออนุมัติงานต่าง ๆ

สรุป: เราจะป้องกันการทุจริตได้อย่างไร?

  1. มีจิตสำนึกที่ดี และซื่อสัตย์สุจริต
  2. ไม่สนับสนุนการทุจริต เช่น การไม่ให้สินบน หรือไม่ยินยอมให้ใครลอกงาน
  3. กล้าแจ้งเบาะแส เมื่อตรวจพบสิ่งผิดปกติ
  4. ส่งเสริมความโปร่งใส เช่น การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายที่ตรวจสอบได้
  5. ร่วมกันปลูกฝังค่านิยมความซื่อสัตย์ให้กับตนเองและผู้อื่น
About ครูออฟ 1868 Articles
https://www.kruaof.com