ความรู้เบื้องต้นภาษา HTML

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :
Print Friendly, PDF & Email

HTML ย่อมาจาก Hypertext Markup Language เป็นภาษาคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ที่มีโครงสร้างการเขียนโดยอาศัยตัวกำกับ (Tag) ควบคุมการแสดงผลข้อความ รูปภาพ หรือวัตถุ อื่น ๆ ผ่านโปรแกรมเบราเซอร์ แต่ละ Tag อาจจะมีส่วนขยาย เรียกว่า Attribute สำหรับระบุ หรือควบคุมการแสดงผล ของเว็บได้ด้วย HTML เป็นภาษาที่ถูกพัฒนาโดย World Wide Web Consortium (W3C) จากแม่แบบของภาษา SGML (Standard Generalized Markup Language) โดยตัดความสามารถบางส่วนออกไป เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจและเรียนรู้ได้ง่าย และด้วยประเด็นดังกล่าว ทำให้บริการ www เติบโตขยายตัวอย่างกว้างขวาง

Tag เป็นลักษณะเฉพาะของภาษา HTML ใช้ในการระบุรูปแบบคำสั่ง หรือการลงรหัสคำสั่ง HTML ภายในเครื่องหมาย less-than bracket (<) และ greater-than bracket (>) โดยที่ Tag HTML แบ่งได้ 2 ลักษณะ คือ

1. Tag เดี่ยว เป็น Tag ที่ไม่ต้องมีการปิดรหัส เช่น <hr>(Tag กำหนดเส้นคั่น), <br> (Tag กำหนดขึ้นบันทัดใหม่) เป็นต้น

2. Tag เปิด/ปิด เป็น Tag ที่ประกอบด้วย Tag เปิด และ Tag ปิด โดย Tag ปิด จะมีเครื่องหมาย slash ( / ) นำหน้าคำสั่งใน Tag นั้น ๆ เช่น <B>……</B> (Tag กำหนดตัวหนา), <a href=URL>…จุด link..</a> (Tag กำหนดการเชื่อมโยงข้อมูล) เป็นต้น

3. Tag เปิด/ปิด บาง tag ละ tag ปิดได้ เช่น <tr> (Tag กำหนดแถวตาราง), <th> (Tag กำหนดคอลัมภ์ตาราง)

4. คำสั่งใน Tag เขียนด้วยอักษรตัวใหญ่หรือเล็กก็ได้ เช่น <Body> หรือ <BODY> หรือ <body>

 

โครงสร้างของภาษา HTML

การเขียนโฮมเพจด้วยภาษา HTML นั้น เอกสาร HTML จะประกอบด้วยส่วนประกอบ 2 ส่วน ดังนี้

1. ส่วน Head คือส่วนที่จะเป็นหัว (Header) ของหน้าเอกสารทั่วไป หรือส่วนชื่อเรื่อง (Title) ของหน้าต่างการทำงานในระบบ Windows
2. ส่วน Body จะเป็นส่วนเนื้อหาของเอกสารนั้น ๆ ซึ่งจะประกอบด้วย Tag คำสั่งในการจัดรูปแบบ หรือตกแต่งเอกสาร HTML

ในทั้งสองส่วนนี้จะอยู่ภายใน Tag <HTML>…</HTML> ดังนี้

<html>

<head> <title> ส่วนชื่อเอกสาร </title> </head>

<body>

tag คำสั่ง

</body>

</html>
คำสั่ง หรือ Tag ที่ใช้ในภาษา HTML ประกอบไปด้วยเครื่องหมายน้อยกว่า “<” ตามด้วย ชื่อคำสั่งและปิดท้ายด้วยเครื่องหมายมากกว่า “>” เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ตกแต่งข้อความ เพื่อ การแสดงผลข้อมูล โดยทั่วไปคำสั่งของ HTML ส่วนใหญ่จะอยู่เป็นคู่ มีเพียงบาง คำสั่งเท่านั้น ที่มีรูปแบบคำสั่งอยู่เพียงตัวเดียว ในแต่ละคำสั่ง จะมีคำสั่งเปิดและปิด คำสั่งปิดของแต่ละ คำสั่งจะมี รูปแบบเหมือนคำสั่งเปิด เพียงแต่จะเพิ่ม “/” (Slash) นำหน้าคำสั่ง ปิดให้ดู แตกต่าง เท่านั้น และในคำสั่งเปิดบางคำสั่ง อาจมีส่วนขยายอื่นผสมอยู่ด้วย

ในการเขียนคำสั่งภาษา HTML สามารถเขียน ด้วยตัวอักษร เล็กหรือใหญ่ ทั้งหมดหรือเขียนคละกันได้ เช่น <HTML> หรือ <Html> หรือ <html> ซึ่งจะให้ผลเหมือนกัน

คำสั่งเริ่มต้นของเอกสาร HTML

<HTML>……….</HTML>

คำสั่ง <HTML> เป็นคำสั่งเริ่มต้นในการเขียนโปรแกรมและคำสั่ง </HTML> เป็นการสิ้นสุดโปรแกรม HTML คำสั่งนี้จะไม่แสดงผลในโปรแกรมเว็บเบราเซอร์ แต่ต้องเขียนเพื่อให้เกิดความเป็นระบบของงาน และเพื่อจะให้รู้ว่าเอกสารนี้เป็นเอกสารของภาษา HTML ส่วนหัวเรื่องเอกสารเว็บ (Head Section)

<HEAD>……….</HEAD>

Head Section เป็นส่วนที่ใช้อธิบายเกี่ยวกับข้อมูลเฉพาะของหน้าเว็บนั้น ๆ เช่น ชื่อเรื่องของหน้าเว็บ (Title), ชื่อผู้จัดทำเว็บ(Author), คีย์เวิร์ดสำหรับการค้นหา (Keyword) โดยมี Tag สำคัญ คือ

<TITLE>……….</TITLE >

ข้อความที่ใช้เป็น TITLE ไม่ควรพิมพ์เกิน 64 ตัวอักษร, ไม่ต้องใส่ลักษณะ
พิเศษ เช่น ตัวหนา เอียง หรือสี และควรใช้ภาษาที่มีความหมายครอบคลุม
ถึงเนื้อหาของเว็บเพจ นั้น หรือเป็นคำสำคัญในการค้นหา (Keyword)
<BODY>……….</BODY>

Body Section เป็นส่วนเนื้อหาหลักของหน้าเว็บ ซึ่งการแสดงผลจะต้องใช้ Tag จำนวนมาก ขึ้นอยู่กับลักษณะของข้อมูล เช่น ข้อความ, รูปภาพ, เสียง, วีดิโอ หรือไฟล์ต่างๆส่วนเนื้อหาเอกสารเว็บ เป็นส่วนการทำงานหลักของหน้าเว็บ ประกอบด้วย Tag มากมายตามลักษณะของข้อมูล ที่ต้องการนำเสนอ การป้อนคำสั่งในส่วนนี้ ไม่มีข้อจำกัดสามารถป้อนติดกัน หรือ 1 บรรทัดต่อ 1 คำสั่งก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะยึดรูปแบบที่อ่านง่าย คือ การทำย่อหน้าในชุดคำสั่งที่เกี่ยวข้องกัน ทั้งนี้ให้ป้อนคำสั่งทั้งหมดภายใต้ Tag <BODY> … </BODY>

ในบทเรียนนี้ได้ทำการจัดเนื้อหาสำหรับการสร้างโฮมเพจด้วยภาษา HTML สำหรับกลุ่มคำสั่งได้ดังนี้

1. กลุ่มคำสั่งจัดรูปแบบตัวอักษร
2. กลุ่มคำสั่งการจัดรูปแบบเอกสาร
3. กลุ่มคำสั่งจัดการรูปภาพ
4. กลุ่มคำสั่งการจัดรูปแบบฉากหลัง
5. กลุ่มคำสั่งจัดการตาราง
6. กลุ่มคำสั่งเกี่ยวกับการเชื่อมโยง

สรุป

<HTML>….</HTML> คำสั่งเริ่มต้น คำสั่ง html เป็นคำสั่งเริ่มการเขียน
<HEAD>….</HEAD> เป็นส่วนหัวของเว็บเพจ บอกคุณสมบัติของเว็บเพจ
<TITLE>….</TITLE> ใช้บอกชื่อของเว็บเพจ
<BODY>….</BODY> เป็นส่วนสำคัญที่สุด เพราะเป็นส่วนที่แสดงเนื้อหา
ทั้งหมด อาจรวมถึง ข้อความ รูปภาพ ตาราง
การเชื่อมโยง

 

ที่มา https://pirun.ku.ac.th/~agrtnk/web/units/unit1/unit1-2.htm

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

ความหมายและประเภทของเงิน

ความหมายของเงิน: เงินเป็นสิ่งที่มีค่าใช้และมีความสำคัญในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ มันเป็นสัญลักษณ์ของมูลค่าที่ใช้ในการซื้อขายหรือการแลกเปลี่ยนในชุมชนหรือระบบเศรษฐกิจ นอกจากนี้เงินยังมีคุณสมบัติเป็นเครื่องมือในการเก็งกำไรหรือการลงทุน มันสามารถเป็นอาหารสำหรับการค้าหรือก็เป็นหนี้ที่จะชำระในอนาคต ประเภทของเงิน: เงินเหรียญ: เป็นเงินที่มีรูปร่างและมีค่าตามตัว เหรียญสามารถใช้แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการได้โดยตรง ตัวอย่างเช่น เหรียญเงินทอง และเหรียญเงินแสน เงินแบงก์โนตัส: เป็นเงินที่ถูกเก็บรักษาโดยธนาคารหรือองค์กรการเงิน มีรูปแบบเป็นเช็ค บัตรเครดิต และเงินฝากในบัญชีธนาคาร เงินแบงก์โนตัสมักถูกใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงิน การชำระเงิน และการออมเงิน ทั้งเงินเหรียญและเงินแบงก์โนตัสมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการแลกเปลี่ยนในโลกปัจจุบัน การเข้าใจและการจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบริหารจัดการการเงินของบุคคลและองค์กรทางธุรกิจในทุกๆ ระดับ...

เทคโนโลยีช่วยยกระดับการเรียนรู้: วิธีการสอนที่นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีช่วยยกระดับการเรียนรู้: วิธีการสอนที่นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในยุคดิจิทัล เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกแง่มุมของชีวิต การศึกษา ก็เช่นกัน เทคโนโลยีสามารถนำมาใช้เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ และสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่สนุกสนาน ยืดหยุ่น และเข้าถึงได้ง่ายขึ้น บทความนี้จะนำเสนอวิธีการสอนที่นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ ดังนี้ 1. การใช้สื่อมัลติมีเดีย: วิดีโอ: การใช้สื่อวิดีโอช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้เนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิดีโอสามารถนำเสนอเนื้อหาที่ซับซ้อนให้น่าสนใจ เข้าใจง่าย กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม และช่วยให้นักเรียนจดจำเนื้อหาได้ดีขึ้น อินโฟกราฟิก: อินโฟกราฟิกเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการนำเสนอข้อมูลที่ซับซ้อนให้น่าสนใจและเข้าใจง่าย ช่วยให้นักเรียนสามารถวิเคราะห์ข้อมูล เปรียบเทียบข้อมูล...

การสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ: ปัจจัยและวิธีการประยุกต์ใช้

การสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพเป็นกระบวนการที่ต้องพิจารณาปัจจัยหลากหลาย ทั้งสภาพแวดล้อมทางกายภาพ จิตวิทยาและสังคม และการใช้เทคโนโลยี การให้ความสำคัญและปรับปรุงสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับความต้องการและบริบทของผู้เรียนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสำเร็จในการเรียนรู้...

แนะนำเครื่องมือและแอปพลิเคชันที่มีประโยชน์สำหรับการจัดการเรียนการสอน

**Meta Description:** ค้นพบแอปพลิเคชันและเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการจัดการเรียนการสอนในยุคดิจิทัล ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอนและเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีขึ้นสำหรับครูและนักเรียน....

การจัดการห้องเรียนของครูในยุคดิจิทัล: 7 ขั้นตอนสำคัญสู่ความสำเร็จ

การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้สร้างความท้าทายใหม่ๆ ให้กับครูทั่วโลก ในยุคดิจิทัลนี้ การจัดการห้องเรียนต้องการทักษะและความรู้ใหม่ๆ ที่สามารถปรับตัวและพัฒนาต่อไปได้อย่างรวดเร็ว การใช้เทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญในการสอนและการเรียนรู้ไม่ใช่แค่การเสริมสร้าง แต่เป็นการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพ...

About ครูออฟ 1250 Articles
https://www.kruaof.com