5 ตัวอย่าง “รูปแบบของ Fake News” ที่ต้องรู้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อข่าวปลอม

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

บทนำ

ในยุคที่ข้อมูลหลั่งไหลไม่หยุดผ่านโซเชียลมีเดีย การรู้ทันว่า “ข่าวปลอม” มีหน้าตาอย่างไรจึงสำคัญมาก โดยเฉพาะในเด็กที่เพิ่งเริ่มใช้เทคโนโลยี

Fake News ไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่แฝงตัวมาในหลายรูปแบบที่แนบเนียนจนน่าเชื่อถือ


ตัวอย่าง 5 รูปแบบของ Fake News ที่พบบ่อย

1. ข่าวลวงทางวิทยาศาสตร์

เช่น “ดื่มน้ำร้อนฆ่าไวรัสได้”, “กินกล้วยตอนท้องว่างทำให้ตายเร็ว”

อธิบายกับเด็ก:
ให้เด็กเปรียบเทียบกับความรู้วิทยาศาสตร์ในหนังสือเรียน และฝึกถามว่า “ใครบอก?” หรือ “มีหลักฐานไหม?”


2. ข่าวลือ / แชร์ต่อ ๆ กันมา

เช่น “ดาราคนนี้เสียชีวิตแล้ว”, “นักเรียน ป.6 ถูกลักพาตัวหน้ารร.”

อธิบายกับเด็ก:
ให้รู้ว่าแค่เพื่อนส่งมาทาง LINE หรือ TikTok ไม่ได้แปลว่าเป็นเรื่องจริงเสมอ


3. ข่าวคลิกเบต (Clickbait)

เช่น “ห้ามกินสิ่งนี้เด็ดขาด!! ไม่งั้นชีวิตพังแน่!”
เนื้อหาข้างในไม่ตรงกับพาดหัว

อธิบายกับเด็ก:
สอนให้ดูชื่อเว็บไซต์ และลองอ่านเนื้อหาก่อนแชร์ว่า “ใช่จริงไหม?”


4. ข่าวที่บิดเบือนบางส่วน

เช่น ข่าวที่ใส่ภาพประกอบน่ากลัว แต่เนื้อหาจริงไม่เกี่ยวกัน
หรือพูดความจริงแค่ครึ่งเดียว

อธิบายกับเด็ก:
ฝึกให้เด็กดู “ที่มา” และสังเกตว่าเนื้อหามีความเป็นกลางหรือไม่


5. ข่าวที่ใช้ตัวละคร/โลโก้หลอกลวง

เช่น ทำเว็บปลอมให้เหมือนช่องข่าวดัง
หรือปลอมโลโก้โรงเรียน/กระทรวง

อธิบายกับเด็ก:
ให้สังเกต URL เว็บ และโลโก้ให้ดีว่าเหมือนของจริงหรือไม่


สรุป

Fake News มาได้หลายรูปแบบ บางข่าวแค่ดูผ่านตาก็อาจเข้าใจผิดได้ทันที

ดังนั้น การรู้จัก รูปแบบของ Fake News และฝึกให้เด็ก “ตั้งคำถามกับข้อมูล” คือเกราะป้องกันสำคัญที่ควรปลูกฝังตั้งแต่วันนี้

“ข่าวปลอมมีหลายหน้า แต่ถ้าเรารู้จัก เราจะไม่ตกเป็นเหยื่อ”

About ครูออฟ 1868 Articles
https://www.kruaof.com