แนะนำการใช้ Photoshop CS6 เบื้องต้น

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :
Print Friendly, PDF & Email

จุดประสงค์การเรียนรู้

  • นักเรียนบอกความหมาย ความสำคัญและการเข้าใช้งานโปแกรม Photoshop CS6 ได้
  • นักเรียนบอกชนิดของงานที่เกิดจากโปรแกรม Photoshop CS6 ได้
  • นักเรียนมีความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย

Photoshop เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างและตกแต่งภาพที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุด อันเนื่องมาจากคุณสมบัติเด่นซึ่งมีอยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสามารถจัดการกับไฟล์สารพัดชนิดที่ใช้ในงานประเภทต่าง ๆ ทั้งรูปที่จะนำไปผ่านกระบวนการพิมพ์ และรูปที่นำไปใช้ในเว็บเพจหรือส่งผ่านสื่ออิเล็กทรอนิคส์ มีความสามารถเป็นเยี่ยมในการแก้ไขตกแต่งภาพ   และการสร้างเอฟเฟ็คเศษต่าง ๆ มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นสูง สามารถบันทึกขั้นตอนที่ต้องทำซ้ำ ๆ ไว้เรียกใช้ภายหลังตลอดจนมีผู้ผลิตปลั๊กอิน (plug-in) ให้เป็นจำนวนมาก ซึ่งปลั๊กอินก็คือโปรแกรมเสริมสำหรับช่วยให้การทำงานที่ซับซ้อนสำเร็จลงได้อย่างรวดเร็ว

เนื้อหาประจำเรื่อง

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของงานประเภทต่าง ๆ ซึ่งคุณสามารถใช้ Photoshop ช่วยจัดการได้อย่างง่ายดาย

                  • แก้ไขภาพถ่าย  ที่บกพร่องหรือมีตำหนิ เช่น ปรับสีที่เพี้ยน ปรับแสงเงาที่สว่างหรือมืดเกินไปลบแสงแฟลชที่สะท้อนในดวงตา

                  • ตกแต่งภาพ   เช่น ตัดส่วนที่ไม่ต้องการออกไป ลบองค์ประกอบที่รกรุงรัง ปรับภาพให้เบลอหรือคมชัด ปรับผิวกายนางแบบให้ขาวนวลและขจัดไฝฝ้าต่าง ๆ ขจัดเม็ดสีที่เกิดในภาพที่สแกนจากสิ่งพิมพ์

                  • ดัดแปลงภาพ เช่น ทำภาพใหม่ให้กลายเป็นภาพสีซีเปียแบบโบราณ หรือแปลงภาพเก่า ๆ ที่เป็นขาวดำให้กลายเป็นภาพสี เปลี่ยนภาพคนให้อ้วนขึ้น-ผอมลง หรือเด็ก-แก่กว่าที่เป็นจริง

                  • ใส่เอฟเฟ็คต์พิเศษ  ให้ภาพ เช่น ทำให้เหมือนกำลังมองภาพผ่านกระจกชนิดและลายต่าง ๆ หรือเหมือนเงาสะท้อนในน้ำ เปลี่ยนภาพถ่ายให้ดูคล้ายภาพวาดด้วยเครื่องมือหลากหลายชนิด ใส่ประกายแสงหรือเงาให้วัตถุ ทำวัตถุแบน ๆ ให้ดูเป็น 3 มิติ เปลี่ยนโทนสีของภาพ

                  • สร้างภาพกราฟิก  ซึ่งผสมผสานระหว่างภาพถ่าย ข้อความ และภาพวัตถุหรือเอฟเฟ็กต์พิเศษที่สร้างขึ้นใน Photoshop เพื่อใช้ในงานผลิตสื่อโฆษณา ทำปกหนังสือหรือนิตยสาร หรือใช้ตกแต่งเว็บเพจ

ความเป็นมาของ    Photoshop

Photoshop เป็นโปรแกรมของบริษัท Adobe (“อะ-โด-บี้”) ซึ่งเป็นผู้พัฒนา ซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก และอุตสาหกรรมการพิมพ์รายสำคัญ  รวมถึงเป็นผู้คิดค้นภาษา  PostScript และไฟล์แบบ PDF   (Portable Document Format)    ที่ใช้กันในวงการพิมพ์และการจัดรูปแบบเอกสารบนอินเตอร์เน็ตด้วย ดังนั้น Photoshop จึงสามารถทำงานร่วมและแลกเปลี่ยนไฟล์กับโปรแกรมอื่น ๆ ที่ใช้ทำงานด้านกราฟิกได้อย่างกว้างขวาง เช่น โปรแกรม Illustrator, PageMaker และ Acrobat ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นของ Adobe  เช่นกัน

Photoshop ออกเวอร์ชั่นแรกในปี 1990 และได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ เป็นเวอร์ชั่น 2,2.5, 3, 4, 5, 5.5 และ 6 ,7 ,CS2,CS3,CS4,CS5 จนล่าสุดคือ เวอร์ชั่น CS6 ในขณะนี้ โดยมีขีดความสามารถใหม่ๆ สำหรับการจัดการกับภาพขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง คือ Adobe Bridge CS 6  ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับจัดการภาพถ่ายของเรา  ซึ่งทำหน้าที่เหมือนการทำงานใน Explorer  หรือบางอย่างอาจจะทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ  เช่น การจัดกลุ่มภาพ การแสดงรายละเอียดของภาพ เช่น กล้องที่ใช้ถ่ายด้วยเลนส์แบบไหน โฟกัสเท่าไร ค่า white balance เท่าไร เป็นต้น และที่สำคัญคือสามารถดูตัวอย่างไฟล์ภาพของ Photoshop นามสกุล .psd  ได้  โดยไม่ต้องเปิดดูใน Photoshop  และยังมีคำสั่งอัตโนมัติที่สามารถเลือกใช้กับไฟล์ภาพได้อีกด้วย  

เว็บกราฟิก และ Adobe Photoshop

องค์ประกอบสำคัญในการทำ Web ให้ดูน่าสนใจ คงหนีไม่พ้นรูปภาพที่นำมตกแต่ง ซึ่งผู้พัฒนาหลายๆ คน บ้างก็นำภาพสำเร็จมาใช้งาน บ้างก็นำภาพจากเว็บอื่นๆ ที่ดูสวยงามมาใช้ และก็มีไม่น้อยที่สร้างภาพเอง โดยอาศัยโปรแกรมกราฟิกต่างๆ เช่น Photoshop, Photo Impact, Paint Shop เป็นต้น  โปรแกรม Photoshop นับว่าเป็นโปรแกรมกราฟิกสุดฮิต ที่นิยมใช้ในการปรับแต่งภาพ หรือสร้างภาพ เพื่อนำมาใช้งานในเว็บ เนื่องจากมีฟังก์ชันการทำงาน ที่หลากหลาย มีฟิลด์เตอร์เพื่อปรับแต่งภาพ จากค่ายต่างๆ ทำให้ง่ายต่อการปรับแต่งภาพตามต้องการ เดิมทีนิยมใช้ Photoshop เพื่องานสื่อสิ่งพิมพ์ (Desktop Publishing) แต่ปัจจุบัน Web Design มีบทบาทในงานธุรกิจและงานการศึกษาสูงมาก จึงนำ Photoshop มาใช้ในงานนี้ด้วย การทำภาพกราฟิกเพื่อใช้ในงานเว็บ มีหลักการเฉพาะ แตกต่างไปจากงานสื่อสิ่งพิมพ์ ทั้งเรื่องความละเอียดของภาพ (Resolution) ที่ใช้แค่ 72 dpi หรือจำนวนสีที่ใช้แสดงผล เป็นต้น ดังนั้นการศึกษาถึง ลักษณะเฉพาะในการใช้ Photoshop สร้างกราฟิกในงานเว็บ จึงเป็นศาสตร์ที่น่าสนใจอีกศาสตร์หนึ่ง

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

ความหมายและประเภทของเงิน

ความหมายของเงิน: เงินเป็นสิ่งที่มีค่าใช้และมีความสำคัญในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ มันเป็นสัญลักษณ์ของมูลค่าที่ใช้ในการซื้อขายหรือการแลกเปลี่ยนในชุมชนหรือระบบเศรษฐกิจ นอกจากนี้เงินยังมีคุณสมบัติเป็นเครื่องมือในการเก็งกำไรหรือการลงทุน มันสามารถเป็นอาหารสำหรับการค้าหรือก็เป็นหนี้ที่จะชำระในอนาคต ประเภทของเงิน: เงินเหรียญ: เป็นเงินที่มีรูปร่างและมีค่าตามตัว เหรียญสามารถใช้แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการได้โดยตรง ตัวอย่างเช่น เหรียญเงินทอง และเหรียญเงินแสน เงินแบงก์โนตัส: เป็นเงินที่ถูกเก็บรักษาโดยธนาคารหรือองค์กรการเงิน มีรูปแบบเป็นเช็ค บัตรเครดิต และเงินฝากในบัญชีธนาคาร เงินแบงก์โนตัสมักถูกใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงิน การชำระเงิน และการออมเงิน ทั้งเงินเหรียญและเงินแบงก์โนตัสมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการแลกเปลี่ยนในโลกปัจจุบัน การเข้าใจและการจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบริหารจัดการการเงินของบุคคลและองค์กรทางธุรกิจในทุกๆ ระดับ...

การใช้เทคโนโลยีในการประเมินผลการเรียนรู้

บทนำ การประเมินผลการเรียนรู้เป็นส่วนสำคัญในการวัดผลการศึกษาในระบบการเรียนการสอนปัจจุบัน ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้กระบวนการนี้สามารถพัฒนาและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เทคโนโลยีที่ใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ไม่เพียงช่วยเพิ่มความแม่นยำ แต่ยังสามารถลดเวลาและความซับซ้อนในกระบวนการประเมินอีกด้วย ความสำคัญของการประเมินผลการเรียนรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ช่วยให้ครูและนักเรียนทราบถึงความสามารถในการเรียนรู้และความก้าวหน้าในการศึกษา การประเมินที่มีประสิทธิภาพยังสามารถชี้ให้เห็นถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของนักเรียน ทำให้ครูสามารถปรับปรุงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับความต้องการของนักเรียนแต่ละคนได้ เทคโนโลยีที่ใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ ระบบการจัดการการเรียนรู้ (LMS) ระบบการจัดการการเรียนรู้ (Learning Management System: LMS) เช่น Moodle, Canvas, Blackboard เป็นต้น เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการการเรียนการสอนและการประเมินผล นักเรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาเรียนและทำการทดสอบออนไลน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว...

เทคโนโลยีช่วยยกระดับการเรียนรู้: วิธีการสอนที่นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีช่วยยกระดับการเรียนรู้: วิธีการสอนที่นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในยุคดิจิทัล เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกแง่มุมของชีวิต การศึกษา ก็เช่นกัน เทคโนโลยีสามารถนำมาใช้เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ และสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่สนุกสนาน ยืดหยุ่น และเข้าถึงได้ง่ายขึ้น บทความนี้จะนำเสนอวิธีการสอนที่นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ ดังนี้ 1. การใช้สื่อมัลติมีเดีย: วิดีโอ: การใช้สื่อวิดีโอช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้เนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิดีโอสามารถนำเสนอเนื้อหาที่ซับซ้อนให้น่าสนใจ เข้าใจง่าย กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม และช่วยให้นักเรียนจดจำเนื้อหาได้ดีขึ้น อินโฟกราฟิก: อินโฟกราฟิกเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการนำเสนอข้อมูลที่ซับซ้อนให้น่าสนใจและเข้าใจง่าย ช่วยให้นักเรียนสามารถวิเคราะห์ข้อมูล เปรียบเทียบข้อมูล...

การสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ: ปัจจัยและวิธีการประยุกต์ใช้

การสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพเป็นกระบวนการที่ต้องพิจารณาปัจจัยหลากหลาย ทั้งสภาพแวดล้อมทางกายภาพ จิตวิทยาและสังคม และการใช้เทคโนโลยี การให้ความสำคัญและปรับปรุงสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับความต้องการและบริบทของผู้เรียนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสำเร็จในการเรียนรู้...

แนะนำเครื่องมือและแอปพลิเคชันที่มีประโยชน์สำหรับการจัดการเรียนการสอน

**Meta Description:** ค้นพบแอปพลิเคชันและเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการจัดการเรียนการสอนในยุคดิจิทัล ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอนและเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีขึ้นสำหรับครูและนักเรียน....

About ครูออฟ 1251 Articles
https://www.kruaof.com