
ในยุคที่ทุกคนใช้สมาร์ตโฟน อินเทอร์เน็ต และโซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน “สแกมเมอร์ (Scammer)” หรือมิจฉาชีพออนไลน์ กลายเป็นภัยใกล้ตัวที่ใครก็อาจตกเป็นเหยื่อได้ ตั้งแต่นักเรียน ผู้ปกครอง ครู ไปจนถึงคนทำงานทั่วไป เพียงแค่เผลอคลิกลิงก์เดียว ก็อาจเสียข้อมูลส่วนตัว เงินในบัญชี หรือแม้แต่ถูกหลอกให้โอนเงินได้ง่าย ๆ
บทความนี้ครูออฟขอสรุปแบบเข้าใจง่าย เพื่อให้ทุกคนสามารถนำไปใช้สอนเด็ก ๆ และแชร์ให้ผู้ปกครองรู้เท่าทันภัยเหล่านี้ได้
สแกมเมอร์ (Scammer) คืออะไร?
สแกมเมอร์ คือผู้ที่ใช้วิธีหลอกลวงบนโลกออนไลน์เพื่อเอาทรัพย์สิน ข้อมูลส่วนตัว หรือผลประโยชน์จากเหยื่อ โดยอาศัยความไม่รู้ ความไว้ใจ หรือการสร้างสถานการณ์ให้เหยื่อตกใจจนตัดสินใจผิดพลาด
มิจฉาชีพอาจมาในหลายรูปแบบ เช่น
- บน Facebook
- LINE
- TikTok
- SMS
- โทรศัพท์
- เว็บไซต์ปลอม
- ลิงก์ปลอม
- แอปปลอม
และมักแฝงตัวมาในรูปแบบ “บุคคลที่ดูน่าเชื่อถือ” เช่น เจ้าหน้าที่รัฐ พนักงานบริษัทขนส่ง หรือแม้แต่เพื่อนในรายชื่อของเรา!
รูปแบบการหลอกลวงที่พบมากในปี 2568
1. หลอกให้โอนเงิน (Transfer Scam)
ตัวอย่างเช่น
- อ้างว่าเป็นตำรวจ
- อ้างว่ามีพัสดุตกค้าง
- อ้างว่าเป็นธนาคาร
- อ้างว่าเป็นเพื่อน/ญาติยืมเงินผ่านบัญชีปลอม
จุดสังเกต: ทุกกรณี “รีบให้โอนเงินทันที”
2. ลิงก์ปลอม / เว็บหลอกเอาข้อมูล (Phishing)
ส่งลิงก์ให้เหยื่อกด เช่น
- ลิงก์ไปรษณีย์
- ลิงก์แก้ปัญหาบัตรเครดิต
- ลิงก์ไลน์หลุด/เฟซบุ๊กหลุด
เมื่อเหยื่อกดเข้าไป ระบบจะขโมยรหัสผ่านทันที
3. หลอกให้กู้เงิน – แอปเงินกู้เถื่อน
ทำเหมือนเป็นแอปถูกกฎหมาย แต่จริง ๆ คือแอปดูดข้อมูล + หลอกโอนค่าธรรมเนียม
4. หลอกทำงานออนไลน์ (งานพาร์ตไทม์ปลอม)
เช่น
- งานกดไลก์
- งานสั่งซื้อสินค้าแล้วคืนเงิน
- งานปั่นยอด
- งานดูโฆษณา
ตอนแรกได้เงินจริง แต่สุดท้ายโดนหลอกให้ลงทุนเพิ่มจนเสียเงินจำนวนมาก
5. หลอกขายของออนไลน์
เพจปลอม เว็บปลอม ราคาถูกผิดปกติ ส่งของไม่ตรงปก หรือไม่ส่งของเลย
6. Romance Scam (หลอกให้รักแล้วให้โอนเงิน)
ทำทีจีบ/คุยดีมาก สร้างความไว้ใจ แล้วค่อยหลอกเอาเงินในที่สุด
10 สัญญาณเตือน ว่าคุณอาจกำลังคุยกับ “สแกมเมอร์”
- ทักมาตอนดึกเป็นพิเศษ
- โปรไฟล์ใหม่ แต่รูปดูดีเกินจริง
- พูดจาเร่งให้โอนเงินทันที
- ขอข้อมูลส่วนตัว เช่น บัตรประชาชน เบอร์ OTP
- ส่งลิงก์ให้กดอยู่บ่อย ๆ
- บอกว่า “ด่วนมาก” “ต้องทำตอนนี้เลย”
- ใช้ภาษาแปลก ๆ หรือเขียนผิดบ่อย
- อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ใช้เบอร์มือถือ
- โปรไฟล์ไม่มีเพื่อน หรือเพื่อนน้อยมาก
- บอกว่ามีรายได้ง่ายเกินจริง ทำงานแค่วันละไม่กี่นาที
วิธีป้องกันตนเองจากสแกมเมอร์
1. อย่ากดลิงก์ที่ไม่รู้จัก
แม้ลิงก์จะมาจาก “เพื่อน” เพราะบัญชีเพื่อนอาจโดนแฮ็ก
2. ไม่บอกรหัส OTP เด็ดขาด
OTP = กุญแจเข้าบัญชีของเรา อย่าให้ใคร!
3. ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน Facebook ให้ดี
เช่น
- ไม่เปิดเบอร์โทร
- ไม่โพสต์ข้อมูลส่วนตัว
- ไม่โพสต์บัญชีธนาคาร
4. ตรวจสอบบัญชีปลายทางก่อนโอน
ใช้เว็บไซต์ “ศูนย์ปราบโกงออนไลน์” ของตำรวจไซเบอร์
5. อย่าเชื่อสิ่งที่ดูดีเกินจริง
รายได้สูง งานง่าย ได้เงินไว ส่วนใหญ่ “หลอก”
6. ระวังการส่งรูปบัตรประชาชน
มิจฉาชีพเอาไปเปิดบัญชีหรือก่ออาชญากรรมได้
ทำไมครูและผู้ปกครองควรรู้เรื่องนี้?
- เด็ก ๆ เริ่มมีสมาร์ตโฟนตั้งแต่ประถม
- นักเรียนอาจถูกหลอกให้สมัครเกม เติมเกม หรือกดลิงก์
- พ่อแม่หลายคนอาจยังไม่รู้เท่าทันเทคโนโลยี
ครูออฟสามารถใช้บทความนี้เป็นสื่อความรู้ในห้องเรียน หรือให้ผู้ปกครองอ่านเพื่อป้องกันบุตรหลานได้
สรุป
สแกมเมอร์ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ยิ่งปี 2568 รูปแบบยิ่งซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ การรู้ทันและมีสติคืออาวุธสำคัญที่สุด อย่ารีบตัดสินใจ ไม่คลิกลิงก์ ไม่โอนเงิน และตรวจสอบทุกครั้งก่อนทำธุรกรรมใด ๆ
การแชร์ความรู้แบบนี้ช่วยปกป้องทั้งเพื่อนร่วมงาน ครอบครัว นักเรียน และผู้ปกครองให้ปลอดภัยจากโลกออนไลน์ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง
