หน่วยที่ 1 การแก้ปัญหาอย่างง่าย

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :
แบบทดสอบก่อนเรียน
111 1

ตอนที่ 1.1 การค้นพบปัญหา

การเข้าใจปัญหาคืออะไร?

การเข้าใจปัญหาคือ การรู้ว่าปัญหาคืออะไร เกิดขึ้นที่ไหน และเกิดขึ้นอย่างไร เพื่อจะได้หาทางแก้ไขได้ถูกต้อง


ChatGPT Image 21 พ.ค. 2568 21 24 47

ตัวอย่างง่าย ๆ

  • ถ้าลืมของไว้ที่โรงเรียน เราต้องคิดว่า “ของหายได้ยังไง?” แล้วจะได้หาทางเก็บของให้เรียบร้อย
  • ถ้าเปิดไฟทิ้งไว้ เราก็อาจทำป้ายติดที่สวิตช์ไฟว่า “อย่าลืมปิดไฟ!”

ขั้นตอนง่าย ๆ ในการเข้าใจปัญหา

  1. สังเกตดูว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น
  2. ถามตัวเองว่า “เกิดขึ้นเพราะอะไร?”
  3. คิดว่าเราจะแก้ปัญหานี้ได้ยังไง
  4. เลือกวิธีที่ดีที่สุดมาทำ

จำไว้นะ

ChatGPT Image 21 พ.ค. 2568 21 44 27

ตอนที่ 1.2 ขั้นตอนการแก้ปัญหา

การวางแผนแก้ปัญหาคืออะไร?

เมื่อเรารู้ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหานั้นให้ดีที่สุด
การวางแผนจะช่วยให้เราคิดอย่างเป็นระบบ คิดก่อนทำ และลดข้อผิดพลาด


ขั้นตอนง่าย ๆ ในการวางแผนแก้ไขปัญหา

  1. คิดวิธีแก้ปัญหาให้ได้หลาย ๆ วิธี
    (เช่น ถ้าลืมปิดไฟ อาจทำป้าย หรือบอกให้เพื่อนช่วยเตือน)
  2. เลือกวิธีที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด
    (เลือกวิธีที่ง่าย ปลอดภัย และทำได้จริง)
  3. วางลำดับขั้นตอนการลงมือทำ
    (เช่น ขั้นที่ 1 เขียนป้าย ขั้นที่ 2 แปะไว้หน้าประตู)
  4. เตรียมอุปกรณ์หรือสิ่งที่ต้องใช้
    (ปากกา, กระดาษ, เทปกาว เป็นต้น)

ตัวอย่างสถานการณ์

ปัญหา: ลืมเอาสมุดการบ้านไปโรงเรียนบ่อย

วิธีแก้: เขียนเช็กลิสต์ของใช้ที่ต้องใส่กระเป๋า แล้วอ่านทุกเช้าก่อนออกจากบ้าน


จำไว้นะ

ความหมายของการแก้ปัญหา

การแก้ปัญหา คือ การลงมือทำเพื่อหาทางออกของปัญหาที่เกิดขึ้น โดยอาจมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละอย่าง เช่น การเดินทางออกจากเขาวงกต, การหาคำตอบจากข้อมูล ฯลฯ


ChatGPT Image 21 พ.ค. 2568 21 39 32

วิธีการแก้ปัญหามีหลายแบบ เช่น

1. การลองผิดลองถูก

เป็นการลองทำหลาย ๆ วิธี เพื่อดูว่าวิธีใดสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ
ตัวอย่าง: เล่นเกมเขาวงกต ถ้าเจอทางตันก็ลองเปลี่ยนเส้นทางใหม่ จนกว่าจะเจอทางออก

2. ใช้ความสัมพันธ์ของข้อมูลที่มีเหตุผลซึ่งกันและกัน

คือการดูความเกี่ยวข้องของข้อมูล เพื่อหาคำตอบหรือวิธีแก้ปัญหา
ตัวอย่าง: ดูลำดับตัวเลข เช่น 2, 4, 6, 8, 10 → จะเห็นว่าเพิ่มทีละ 2

3. การจัด (การเรียงข้อมูลเพื่อหาทางเลือกที่ดีที่สุด)

ใช้ข้อมูลช่วยเลือกวิธีหรือคนที่เหมาะสมที่สุดในการแก้ปัญหา
ตัวอย่าง: อยากจัดกิจกรรมให้เพื่อนทั้ง 4 คนมีส่วนร่วมทุกคน → ต้องเลือกกิจกรรมที่ทุกคนทำได้ เช่น วาดภาพ, เล่นดนตรี ฯลฯ

สรุป

การแก้ปัญหาไม่มีวิธีเดียวที่ถูกต้องเสมอไป นักเรียนควรฝึกสังเกต คิด และทดลองหลายวิธี เพื่อเลือกวิธีที่ดีที่สุดสำหรับปัญหานั้น

แบบทดสอบหลังเรียน
คลิกเรื่องต่อไป
ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :