เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นที่อิสระเสรีที่ผู้คนต่างก็สามารถสร้างข้อมูลแล้วอัปโหลดเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งข้อมูลบางส่วนที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตอาจจะเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องก็ได้
ดังนั้น ก่อนที่เราจะนําข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาใช้จะต้องประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลด้วยว่า ข้อมูลที่จะนํามาใช้นั้นมีความน่าเชื่อถือเพียงใด โดยวิธีการประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ได้จากอินเทอร์เน็ต มีอยู่ 5 ขั้นตอน ครอบคลุม (1) พิจารณาเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ (2) มีชื่อผู้เขียนหรือผู้ให้ข้อมูลระบุไว้ (3) มีวันที่เผยแพร่และครั้งที่ปรับปรุง (4) มีการอ้างอิงแหล่งที่มา และ (5) บอกวัตถุประสงค์ในการจัดทำ
1) พิจารณาเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ
การพิจารณาเว็บไซต์ว่า เว็บไซต์นั้นเชื่อถือได้หรือไม่ สามารถพิจารณาได้จากส่วนท้ายของชื่อเว็บไซต์ ดังนี้
ลงท้ายด้วย | ความหมาย | ระดับความน่าเชื่อถือ |
---|---|---|
.go.th | เว็บไซต์ที่เป็นหน่วยงานของรัฐ | มาก |
.ac.th, .edu | เว็บไซต์ทางการศึกษา | มาก |
.or.th | เว็บไซต์ขององค์กรที่ไม่หวังผลกําไร | พอใช้ |
.co.th, .com | เว็บไซต์ทางการค้า | น้อย |
.mi.th | เว็บไซต์ทางการทหาร | มาก |
2) มีชื่อผู้เขียนหรือผู้ให้ข้อมูลระบุไว้
ข้อมูลที่มีการระบุชื่อผู้เขียนหรือผู้ ให้ข้อมูลไว้ จะทําให้ผู้ค้นหาข้อมูลทราบว่า ข้อมูลนั้นจัดทําขึ้นโดยใคร หรือมีใครเป็นผู้ให้ข้อมูลไว้
3) มีวันที่เผยแพร่และครั้งที่ปรับปรุง
ข้อมูลที่มาจากแหล่งข้อมูลที่มีการระบุวันที่เผยแพร่และครั้งที่ปรับปรุง จะทําให้ผู้ที่ค้นหาข้อมูลทราบว่า ข้อมูลนั้นจัดทําและมีการปรับปรุงเมื่อใด เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาในการเลือกใช้ข้อมูลที่ทันสมัย และเป็นปัจจุบันมากที่สุด
4) มีการอ้างอิงแหล่งที่มา
การอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลเป็นการอ้างอิงว่า ข้อมูลที่นํามาเสนอในเว็บไซต์นั้น ๆ นํามาจากแหล่งข้อมูลใดบ้าง เพื่อใช้ ในการพิจารณาว่า ข้อมูลนั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
5) บอกวัตถุประสงค์ในการจัดทำ
การบอกวัตถุประสงค์ ในการจัดทําเป็นการแสดงให้เห็นว่าข้อมูลนั้นจัดทําขึ้นด้วยเหตุผลใด