แนวทางในการป้องกันอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :
Print Friendly, PDF & Email

อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ต ทำให้การค้นหาข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันผู้ที่ไม่หวังดีสามารถเข้ามาใช้งานได้ง่ายเช่นกัน ดังนั้น ในการใช้งานควรมีข้อปฏิบัติ ดังนี้

  1. ปกป้องข้อมูลส่วนตัวไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่านต่าง ๆ หมายเลขประจำตัวประชาชน รหัส ATM
  2. ไม่ส่งข้อมูลส่วนตัวของตนเองและผู้อื่นให้กับผู้ที่ไม่รู้จัก
  3. สร้างรหัสผ่านในการใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและควรกำหนดรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยาก
  4. กำหนดสิทธิการใช้งานหรือสิทธิที่บุคคลอื่นสามารถเข้าถึงข้อมูลของเราได้
  5. ถ้าพบปัญหาหรือพบข้อมูลหรือบุคคลที่ทำให้ไม่สบายใจ ให้ขอความช่วยเหลือจากครูหรือผู้ปกครอง
  6. ออกจากระบบหรือปิดอุปกรณ์ทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน

การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจะมีการเชื่อมต่อกันผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอาจมีผู้ไม่หวังดีนำาข้อมูลของเราไปใช้การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศจึงต้องระมัดระวังและปฏิบัติตามข้อปฏิบัติในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง

ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศมีมาก แต่ผลกระทบจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศก็มีมากเช่นกัน เพราะปัจจุบันคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศเชื่อมต่อกันด้วยระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ทุกคนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ ดังนั้น อาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการละเมิดสิทธิผู้อื่น ดังนั้น ผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทุกคนจึงควรมีทักษะในการป้องกันและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย

คลิกเรื่องต่อไป
ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :