สิ่งมีชีวิตบนโลกมีหลายชนิด มีขนาดใหญ่จนถึงขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่เราสามารถจำแนกสิ่งมีชีวิตเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ 3 กลุ่ม ครอบคลุม (1) กลุ่มสัตว์ (2) กลุ่มพืช และ (3) กลุ่มที่ไม่ใช่สัตว์และพืช
1.1 กลุ่มสัตว์
การจำแนกสัตว์เป็นกลุ่มโดยใช้เกณฑ์การมีกระดูกสันหลังซึ่งจะแบ่งสัตว์เป็น 2 กลุ่ม คือ 1. สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง และ 2. สัตว์มีกระดูกสันหลัง
1.2 กลุ่มพืช
พืชสามารถจัดกลุ่มโดยใช้เกณฑ์ต่าง ๆ ได้หลายเกณฑ์ แต่ถ้าหากจัดกลุ่มพืชโดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์จะจำแนกได้ 2 กลุ่ม คือ 1. พืชมีดอก และ 2. พืชไม่มีดอก
1.3 กลุ่มที่ไม่ใช่สัตว์และพืช
กลุ่มที่ไม่ใช่สัตว์และพืชที่เรียกว่า จุลินทรีย์ เช่น เห็ดรา แบคทีเรีย และ ไวรัส
ส่วนประกอบของพืช มีอยู่ด้วยกัน 4 ส่วน ครอบคลุม (1) ราก (2) ลำต้น (3) ใบ และ (4) ดอก
2.1 ราก
ราก (root) รากพืชที่มีหน้าที่ดูดน้ำและแร่ธาตุในดินมี 2 แบบ คือ 1) รากแก้ว และ 2) รากฝอย
รากแก้วและรากฝอยจะมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ ขนราก มีลักษณะเป็นเส้นยาวและบาง มีขนาดเล็กมาก มีหน้าที่ดูดน้ำและแร่ธาตุจากดินเข้าสู่รากไปยังลำต้นและส่วนต่างๆ ของพืช โดยลำเลียงผ่านท่อลำเลียงน้ำหรือไซเล็ม (xylem)
รากบางชนิดยังเปลี่ยนแปลงไปทำหน้าที่พิเศษ ได้แก่
2.2 ใบ
ใบ ของพืชดอกแต่ละชนิดอาจมีขนาด รูปร่าง และลักษณะแตกต่างกัน ใบติดอยู่ตามลำต้น กิ่ง และก้าน ใบพืช ทำหน้าที่ในการสร้างอาหารเพื่อนำไปใช้ ในการดำรงชีวิตแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. ใบเลี้ยงเดี่ยว และ 2. ใบเลี้ยงคู่
ความสำคัญของกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชนอกจากเป็นแหล่งอาหารและแหล่งพลังงานที่สำคัญของสิ่งมีชีวิตและยังช่วยลดปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไชด์ ซึ่งเป็นแก๊สที่มีพิษต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมเพราะพืชต้องใช้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็น วัตถุดิบในการสังเคราะห์ด้วยแสง และยังเป็นแหล่งผลิตแก๊สออกซิเจนที่สำคัญ ซึ่งสิ่งมีชีวิตต้องใช้แก๊สออกซิเจนในกระบวนการหายใจเพื่อสลายอาหารหรือสร้างพลังงาน
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ซึ่งสามารถเขียนเป็นแผนภาพได้ดังนี้
2.3 ดอก
ดอก (flower) เป็นอวัยวะที่สำคัญของพืชใช้ในการสืบพันธุ์ดอก อาจอยู่บริเวณกึ่งก้านหรือที่ปลายยอด ดอกแต่ละชนิดมีรูปร่างลักษณะ และสีแตกต่างกัน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวดอกจะมีส่วนประกอบ 4 ส่วน ครอบคลุม (1) กลีบเลี้ยง (2) กลีบดอก (3) เกสรตัวผู้ และ (4) เกสรตัวเมีย
2.4 ลำต้น
ลำต้น (stem) เป็นอวัยวะของพืชซึ่งส่วนใหญ่จะเจริญขึ้นมา เหนือดินแต่ก็มีพืชบางชนิดที่ลำต้นอยู่ใต้ดิน ลำต้นประกอบด้วยส่วน สำคัญ 2 ส่วน คือ 1. ข้อ (node) เป็นส่วนของลำต้นที่มีการแตกจุด (bud) ซึ่งจะเจริญไปเป็น กิ่ง ดอก หรือใบ และ 2. ปล้อง (internode) เป็นส่วนของลำต้นที่อยู่ระหว่างข้อ
พืชใบเลี้ยงเดี่ยว จะสังเกตส่วนของข้อปล้องได้อย่างชัดเจน ตลอดชีวิต เช่น ต้นไผ่ ต้นอ้อย ข้าวโพด เป็นต้น
พืชใบเลี้ยงคู่ นั้นส่วนใหญ่แล้วข้อปล้องจะสังเกตได้ไม่ชัดเจนทั้งนี้ เพราะเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่แล้วมักจะมีเนื้อเยื่อชั้นคอร์ก (cork) มาหุ้มโดยรอบเอาไว้ การจะสังเกตอาจจะสังเกต ในขณะที่พืชยังอ่อนอยู่ แต่ก็ยังมี พืชใบเลี้ยงคู่บางชนิดที่สามารถสังเกตเห็นข้อ ปล้องได้อย่างชัดเจน ตลอดชีวิตเหมือนพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ได้แก่พวก ไม้ล้มลุกต่างๆ เช่น ต้นตำลึง ฟักทอง และผักบุ้ง เป็นต้น
เทคโนโลยีช่วยยก…
การสร้างสภาพแวด…