การค้นหาข้อมูลที่สนใจ ป.4

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

เมื่อนักเรียนศึกษาเรื่อง การค้นหาข้อมูลที่สนใจ แล้ว นักเรียนสามารถบอกได้ว่า

ข้อมูลที่ได้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ จะต้องนำเนื้อหามาพิจารณา เปรียบเทียบ เลือกข้อมูลที่มีความสอดคล้องและสัมพันธ์กัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล โดยพิจารณาจากประเภทของเว็บไซต์ของหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ

เนื้อหาการศึกษาเรื่อง การค้นหาข้อมูลที่สนใจ

  1. นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ต โดยตอบคำถาม ดังนี้
    • นักเรียนเคยใช้อินเทอร์เน็ตหาข้อมูลอะไรบ้าง
    • นักเรียนหาจากเว็บไซต์เดียวหรือหลาย ๆ เว็บไซต์
    • เมื่อนักเรียนนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้เคยอ้างอิงถึงแหล่งที่มาของข้อมูลหรือไม่
  2. นักเรียนร่วมกันฟังคำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ได้ว่า

อาจประเมินจากประเภทของเว็บไซต์ หากเป็นของหน่วยงานราชการ สำนักข่าว หรือองค์กรต่าง ๆความน่าเชื่อถืออาจจะมากกว่าเว็บไซต์ที่สร้างโดยบุคคลทั่วไป จึงต้องพิจารณาถึงผู้เขียนหรือผู้ให้ข้อมูลด้วยนอกจากนี้เมื่อเวลาผ่านไปข้อมูลต่าง ๆ อาจต้องปรับให้ทันสมัย ดังนั้น เราควรพิจารณาถึงวันที่ที่เผยแพร่ ข้อมูลนั้นด้วย

  1. นักเรียนร่วมกันศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการค้นหาข้อมูล จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ
  2. นักเรียนวิเคราะห์ปัญหาความไม่น่าเชื่อถือของข้อมูล จากนั้นเขียนบันทึกเป็นแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง
22
  1. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็น โดยตอบคำถามกระตุ้นความคิด ดังนี้
    • การอ้างอิงถึงแหล่งที่มาของข้อมูลมีประโยชน์อย่างไร

สรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการค้นหาข้อมูล

การค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ควรเลือกจากเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ จากหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ มากกว่าเว็บไซต์บุคคลทั่วไป และเมื่อต้องการใช้ข้อมูลควรอ้างอิงที่มาหรือแหล่งเก็บข้อมูลนั้นด้วย

Applying and Constructing the Knowledge

  1. นักเรียนฝึกปฏิบัติการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดนครสวรรค์ โดยใช้คำค้นว่า “นครสวรรค์” แล้วหาว่าข้อมูลจากเว็บไซต์ใดมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด พร้อมระบุชื่อเว็บไซต์ว่าเป็นของหน่วยงานใด เมื่อวันที่… เดือน… พ.ศ. อะไร จากนั้นอภิปรายร่วมกันในชั้นเรียน
  2. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมที่ 2.3 ใครน่าเชื่อถือ โดยนักเรียนค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดของตนเองแล้วนำข้อมูลในประเด็นที่นักเรียนสนใจมาเรียบเรียงเป็นข้อความประมาณ 10 บรรทัด นำภาพมาติดหรือวาดภาพประกอบ และอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลที่นักเรียนศึกษาและตอบคำถาม เขียนบันทึกลงในชิ้นงานที่ 4 เรื่อง การค้นหาข้อมูลที่สนใจ

สรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน

ข้อมูลที่ได้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ จะต้องนำเนื้อหามาพิจารณา เปรียบเทียบ เลือกข้อมูลที่มีความสอดคล้องและสัมพันธ์กัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล โดยพิจารณาจากประเภทของเว็บไซต์จากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ

ส่งต่อให้เพื่อนอ่าน :

ความแตกต่างระหว่างจริยธรรมและการทุจริต

สรุปใจความสำคัญ: จริยธรรม คือ การรู้จักแยกแยะผิดถูก ประพฤติชอบ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม การทุจริต คือ การกระทำที่เอาเปรียบผู้อื่น ใช้อำนาจหรือโอกาสในทางที่ผิด เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ข้อคิดเสริมการสอน: “เด็กดีมีจริยธรรมจะไม่ทุจริต เพราะรู้ว่า ความถูกต้องสำคัญกว่าความได้เปรียบ” เรื่องน่าอ่านเพิ่มเติม หน่วยที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ป.5 ผลประโยชน์ทับซ้อน...

สรุปเนื้อหาบทเรียน: ผลประโยชน์ทับซ้อน

ความหมาย: ผลประโยชน์ทับซ้อน คือ สถานการณ์ที่ “คนคนหนึ่งมีหน้าที่ต้องตัดสินใจเพื่อส่วนรวม” แต่ กลับมีผลประโยชน์ของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ตัดสินใจไม่เป็นธรรม หรือเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองหรือพวกพ้อง จุดสำคัญที่ควรรู้: ผู้ที่มี ผลประโยชน์ส่วนตัว จะ ตัดสินใจได้ไม่โปร่งใส การมีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ได้ผิดเสมอไป แต่จะผิดเมื่อมี “พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม” หรือ “ใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง” ต้องมี ความซื่อสัตย์ และ เปิดเผยข้อมูล...

เริ่มต้นลงทุนกองทุนรวมง่าย ๆ สำหรับครูประจำการ

บทนำ หลายคนคิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องของนักธุรกิจหรือผู้มีรายได้สูง แต่ความจริงแล้ว “ครูประจำการ” ก็สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ เพื่อเพิ่มมูลค่าเงินออมระยะยาว วันนี้ครูออฟจะพามารู้จักกับกองทุนรวม ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น และสามารถเริ่มต้นได้แม้มีเงินไม่มาก 1. กองทุนรวมคืออะไร? คือการนำเงินของผู้ลงทุนหลายคนมารวมกัน แล้วให้ “ผู้จัดการกองทุน” นำไปลงทุนต่อ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ หรืออสังหาริมทรัพย์ มีความเสี่ยงหลายระดับ เลือกได้ตามความเหมาะสม 2. ทำไมครูควรเริ่มลงทุน? เงินเดือนครูประจำการอาจเติบโตไม่ทันเงินเฟ้อ การออมเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอใช้ยามเกษียณ กองทุนรวมให้โอกาสรับผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยออมทรัพย์ 3. ประเภทของกองทุนรวมที่เหมาะกับครู กองทุนรวมตลาดเงิน (Money...

การวางแผนการใช้เงินในครอบครัวสำหรับครูประถมศึกษา

บทนำ ครูหลายคนอาจทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้กับนักเรียนอย่างเต็มที่ แต่ละเลยการจัดการเรื่องการเงินของตนเองและครอบครัว บทความนี้จึงชวนครูออฟและครูทุกท่านมาวางแผนการใช้เงินในชีวิตประจำวัน เพื่อความมั่นคงในอนาคต และสร้างความมั่นใจให้กับชีวิตหลังเกษียณ 1. รู้รายรับประจำ และรายจ่ายคงที่ เงินเดือนประจำ ค่าผ่อนบ้าน/รถ ค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าสาธารณูปโภค เคล็ดลับ: บันทึกรายจ่ายด้วยแอปมือถือ เช่น Wallet หรือ GoodBudget 2. แบ่งเงินตามสัดส่วน 50/30/20 50% สำหรับสิ่งจำเป็น (อาหาร, บ้าน, ค่าเดินทาง) 30% สำหรับความสุข (ซื้อของ,...

About ครูออฟ 1740 Articles
https://www.kruaof.com